1. เลือกประเภทของเครื่องปรับอากาศ
เครื่องปรับอากาศ แบ่งออกเป็นประเภทตามลักษณะความต้องการใช้งานซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ ซึ่งแตกแต่งกันไป ทั้งฟังก์ชั่นการทำงานและคุณสมบัติต่าง รวมถึงราคาด้วย ดังนั้นควรเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาเหมาะสมกับคุณภาพ และความต้องการในการใช้งานรวมทั้งได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ)
2. ขนาดของความเย็นของเครื่องปรับอากาศ
เป็นความสำคัญอันดับแรกๆ ในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ คือต้องเลือกขนาด การทำความเย็น ของเครื่องปรับอากาศให้พอเหมาะกับห้องและการใช้งาน โดยหน่วยความเย็นที่เราจักกันดี เรียกว่าบีทียู
3. มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
เป็นสินค้าที่ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จากหน่วยงานไฟฟ้า จะได้รับรองรื่องของการประหยัดไฟเบอร์ 5
4. คุณสมบัติพิเศษต่างๆ และการดีไซน์
คุณสมบัติพิเศษต่างๆ ของเครื่องปรับอากาศ เช่น ฟิลเตอร์กรองอากาศ การกำหนดความเร็วความแรงของมอเตอร์, การปรับทิศทางลม การออกแบบเพื่อความสวยงามของห้อง
5. การติดตั้งและการบำรุงรักษา
การติดตั้งเครื่องปรับอากาศต้องทำโดยช่างผู้ชำนาญเท่านั้น และการใช้เครื่องปรับอากาศให้เต็มประสิทธิภาพ ต้องคำนึงถึงแผนการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องอีกด้วย
การเลือกซื้อแอร์มีหลักเกณฑ์อะไรบ้าง
ข้อแนะนะต่อไปนี้อาจเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่กำลังตัดสินใจซื้อเครื่องปรับอากาศได้ดีขึ้น
1. ควรเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศจากผู้ผลิตและผู้จำหน่ายที่เชื่อถือได้ เพราะเครื่องปรับอากาศโนเนมส่วนใหญ่จะมีกำลังความเย็น (BTU) น้อยกว่าที่แสดงไว้บนฉลาก หรือที่ภาษาช่างแอร์เรียกว่าไม่เต็มบีทียู เครื่องปรับอากาศจากผู้ผลิตโนเนมส่วนใหญ่มีกำลังความเย็นเพียง 70 – 80% ของที่โฆษณาไว้ นอกจากจะมีกำลังความเย็นไม่เต็มบีทียูแล้ว แอร์โนเนมยังมีเสียงดังแล้วยังเสียเร็วด้วย
2. ควรเลือกใช้เครื่องปรับอากาศ ที่มีฉลากระหยัดไฟเบอร์ 5 หรือเบอร์ 4 และได้มาตรฐานอุตสากรรม (มอก.) เพราะได้รับการทดสอบความสามารถ ในการทำความเย็นแล้ว นอกจากนี้ควรพิจารณาประกอบกับผู้ผลิตทีมีความน่าเชื่อถือด้วย เนื่องจากว่าอาจจะมีผู้ผลิตบางรายปลอมฉลากเบอร์ 5 ด้วย
3. เลือกใช้เครื่องปรับอากาศของผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายที่มีบริการหลังการขายที่ดี ข้อนี้เป็นข้อมี่มีความสำคัญมากและผู้ให้บริการนั้นจะต้องมีความชำนาญและได้มาตรฐาน
4. มีมาตรฐานรับรอง เช่น มอก. CE JIS ISO เป็นต้น
5. มีมาตรฐานการใช้บริการหลังการขายที่ดี
6. การเลือกเครื่องต้องเหมาะกับห้องปรับอากาศ เนื่องจากการใช้งานติดต่อกันไม่น้อยกว่า 8 ปี และอากาศจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นทุกปี